พรีเมียร์ ยัน กลุ่มทุนซาอุฯ ฮุบ สาลิกา ทางการ
0

พรีเมียร์ ยัน กลุ่มทุนซาอุฯ ฮุบ สาลิกา ทางการ

มีรายงานเข้ามาว่า พรีเมียร์ลีก ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนเจ้าของจาก ไมค์ แอชลีย์ เป็นกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย เป็นที่เรียบร้อย

กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย พยายามเข้าซื้อ นิวคาสเซิ่ล มาแล้วรอบแรก แต่ติดข้อพิพาทกับ บีอิน สปอร์ตส์ ในเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก แต่ล่าสุดสามารถเคลียร์ข้อพิพาทดังกล่าวได้เป็นที่เรียบร้อย

กลุ่มทุนดังกล่าวนำโดย กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ สามารถพิสูจน์ต่อพรีเมียร์ลีกได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน

โดย พีไอเอฟ จะเป็นผู้จัดหาเงิน 80 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มทุนที่มี อะแมนด้า สเตฟลี่ย์ นักการเงินเจ้าของ PCP Capital Partners บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน และมหาเศรษฐีพี่น้องรูเบน ร่วมด้วย เพื่อใช้เป็นทุนในการเทคโอเวอร์ 300 ล้านปอนด์

นั่นทำให้การเข้าเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียประสบความสำเร็จในที่สุด และเป็นการสิ้นสุดยุคของ ไมค์ แอชลีย์ ที่บริหารงานมานาน 14 ปีและมีกระแสต่อต้านจากแฟนบอลสาลิกาดงมาตลอด

แถลงการณ์จากพรีเมียร์ลีกระบุว่า  “พรีเมียร์ลีก สโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เซนต์ เจมส์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด สามารถยุติข้อขัดแย้งในเรื่องเทคโอเวอร์จากกลุ่มทุน พีไอเอฟ, พีซีพี แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ และ อาร์บี สปอร์ตส์ แอนด์ มีเดีย ”

” ภายหลังจากการตรวจสอบความเหมาะสม สโมสรถูกขายให้กับกลุ่มทุนโดยมีผลในทันที พร้อมกันนี้เพื่อยุติความในเรื่องเจ้าของสโมสร พรีเมียร์ลีกได้รับการันตีตามตัวบทกฏหมายด้วยว่าราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียจะไม่เข้ามาควบคุม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ”

การเทคโอเวอร์ในครั้งนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในทันที ขณะที่แฟนบอลสาลิกามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ก็เห็นด้วยกับการเปลี่ยนเจ้าของทีมเพราะหมดความหวังกับ ไมค์ แอชลี่ย์ มานาน